อยากรู้ไหม เงินเดือนอาชีพ ” นักบิน “
ข้อมูลนี้มาจาก กัปตันวินัย ปราชญาพร นายกสมาคมนักบินไทย
ที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการที่
สายการบินเอทิฮัดเดินสายช็อปนักบินตามประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย
ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสายการบินไทย
กัปตันวินัย ปราชญาพร นายกสมาคมนักบินไทย เปิดเผยกับ
“ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการที่สายการบินเอทิฮัด
จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เดินทางมาประเทศไทยพร้อมทั้งเปิดห้องบอล
รูมของโรงแรม โกลเด้นทิวลิป เพื่อรับสมัครนักบินระหว่างวันที่ 24-25
มิถุนายนนี้ว่า จะส่งผลให้นักบินของสายการบินต่าง ๆ
ไม่เฉพาะแต่การบินไทยเท่านั้นที่จะให้ความสนใจไปสมัครกันเป็นจำนวนมาก
โดยจะรวมถึงสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชียและอื่น ๆ ด้วย
เนื่องจากถือเป็นครั้งแรกที่มีการโรดโชว์ในลักษณะนี้จากเดิมที่ใช้วิธีการ
สมัครผ่านอินเตอร์เน็ต เพียงอย่างเดียว
บิน 10 ปีมีเงินเก็บ 25 ล้าน
ส่วนสาเหตุที่จะทำให้นักบินให้ความสนใจเป็นเพราะผลตอบแทนทั้งรายได้
ในรูปของเงินเดือน ค่าเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการต่าง ๆ
ที่มอบให้นั้นถือว่าดีมากจนปฏิเสธไม่ลงโดยล่าสุดมีการคำนวณรายได้ในระดับ
กัปตันของเอทิฮัดกับการบินไทยพบว่า ถ้าใช้ระยะเวลาทำงาน 10 ปี
พบว่าถ้าบินกับสายการบินเอทิฮัดจะมีรายได้มากกว่าการบินไทยไม่ต่ำกว่า 25
ล้านบาท โดยเงินเดือนของเอทิฮัดจะอยู่ที่ราว 480,000 บาทต่อเดือน
ถ้ามีใบอนุญาตเป็นครูสอนนักบินจะได้รายได้เพิ่มอีก 40,000
บาทต่อเดือนหรือทำให้มีรายได้ในราว 520,000 บาท
ขณะที่กัปตันการบินไทยมีรายได้ในราว 280,000 บาทต่อเดือน
“นักบินเข้าใหม่การบินไทยมีรายได้เงินเดือน 60,000 บาท บวกเบี้ยเลี้ยงอีก
30,000 บาท ถ้าเป็นโคไพลอตจะมีรายได้อยู่ที่ 160,000-180,000 บาท
แต่เอทิฮัดจ่าย 280,000 บาทต่อเดือน ระดับกัปตันจ่าย 480,000 บาท ขณะที่
อยู่การบินไทยได้ 280,000 บาท แสดงให้เห็นถึงส่วนต่างรายได้ ในราว 200,000
บาทต่อเดือนหรือปีละ 2,400,000 บาท ไม่รวมสวัสดิการอื่นๆ
ที่จูงใจอีกเป็นจำนวนมาก
จึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้นักบินที่ยังโสดและมีประสบการณ์ 5-7
ปีอยากไปร่วมงานด้วย ” นายกสมาคมนักบินไทยกล่าว
ปรับเงินเดือน 6 หมื่นก็ไม่อยู่
เขายังระบุอีกว่าก่อนหน้าฝ่ายบริหารการบินไทยก็กลัวปัญหาสมองไหลและได้เสนอ
ปรับรายได้นักบิน
โดยล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาปรับรายได้โดยแบ่งออกเป็น 3
ระดับคือระดับกัปตันเพิ่ม 60,000 บาท ซีเนียร์โคไพลอต 45,000
บาทและจูเนียร์โคไพลอต 30,000 บาทต่อเดือน
แต่ก็ต่ำกว่าที่เสนอไปมากและเชื่อว่าคงไม่สามารถแก้ปัญหาสมองไหลได้
เนื่องจากเทียบ
ผลตอบแทนที่สายการบิน ในตะวันออกกลาง อย่างเอทิฮัดจ่ายแล้วนับว่ายังมีความแตกต่างกันมาก
โดยเฉพาะกลุ่มนักบินในระดับซีเนียร์มีการปรับรายได้ต่ำกว่าที่ขอไปจำนวน
60,000
บาทต่อเดือนเนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายในการต้องการตัวของสายการบิน
ต่างชาติมากที่สุดแต่ฝ่ายบริหารปรับให้เพียง 45,000 บาทเท่านั้น
ซึ่งเชื่อว่านักบินกลุ่มนี้คงจะมีการทยอยลาออกไปร่วมกับสายการบินต่างชาติ
อย่างต่อเนื่อง ยิ่งมีการเดินสายการจัดโรดโชว์ถึงในเมืองไทยด้วย
หวั่นนักบินขาดกระทบไฟลต์บิน
หลังจากขณะนี้ได้ลาออกไปแล้ว 42 คน สัมภาษณ์ไปแล้วกำลังรอการเรียกตัวอีก 30
คนและโรดโชว์ในครั้งนี้จะมีนักบินอีกจำนวนหนึ่งไปสมัครแม้จะมีการปรับรายได้
แล้วก็ตาม โดย เอทิฮัดให้ความสนใจกลุ่มนักบินที่มีประสบการณ์ 5-7 ปี
ในการบินเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777 หรือโบอิ้ง 737 แอร์บัสเอ 330 แอร์บัสเอ
340 และยังไม่มีครอบครัว
เพราะจะทำให้ประหยัดค่าเล่าเรียนลูกไปได้อีกจำนวนหนึ่ง
และสามารถย้ายไปประจำที่อาบูดาบีได้ง่ายกว่าคนมีครอบครัว
นายกสมาคมนักบินไทย กล่าวต่ออีกว่า
เดิมทีบริษัทจะจ่ายค่าเล่าเรียนในการฝึกอบรมนักบินและมีสัญญาผูกมัดในการทำ
งานอย่างน้อย 4 ปี แต่ปัจจุบันนักบินต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเองคนละ 2 ล้านบาท
ใช้ระยะเวลา 1 ปี และใช้วิธีหักเงินเดือนใช้คืนบริษัท
ซึ่งถ้าไม่ครบสัญญาต้องเสียค่าปรับ กรณีลาออกต้องแจ้งล่วงหน้า 6 เดือน
ไม่งั้นจะเสียค่าปรับแต่เมื่อเทียบรายได้ที่เอทิฮัดให้แล้ว
ถือว่าคุ้มค่ากว่ามาก ปัจจุบันการบินไทยมีกัปตัน 479 คน โคไพลอต 840 คน
ขณะนี้ถือว่ายังพอรับมือไหว แต่ถ้าหากมีการลาออกไปอีกสักประมาณ 80
คนจะกระทบกับการจัดตารางการบินอย่างแน่นอน
“เวลานี้ต้องถือว่าตลาดเป็นของนักบิน
ทั่วโลกยังมีความต้องการนักบินสูงมีการประเมินว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะถึง
1 แสนคน เนื่องจากมีการสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ ๆ
อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศเกิดใหม่อย่าง จีน อินเดีย
รวมทั้งประเทศในแถบตะวันออกกลางที่ยังมีการสั่งซื้อเครื่องบินกันอย่างต่อ
เนื่อง ซึ่งล่าสุด มีการสั่งซื่อเครื่องบิน A 380 อีก 90
ลำที่จะส่งมอบภายใน 5
ปีที่น่าห่วงสำหรับประเทศไทยคือเรื่องมาตรฐานนักบินที่ต้องมีการพิจารณากัน
ให้ดี สิ่งที่น่าทำคือรับสมัครนักบินที่ยังไม่มีไลเซนส์ เอามาฝึก
น่าจะทำได้เร็วกว่าการเรียนตามปกติที่สามารถผลิตได้ปีละ 100
คนทั่วประเทศเท่านั้น” นายกสมาคมนักบินไทยกล่าว
โรดโชว์ 7 ประเทศทั่วเอเชีย
ทางด้านแหล่งข่าวจากวงการนักบินที่เดินทางไปร่วมโรดโชว์กับสายการบินเอทิฮัด
ที่ประเทศสิงคโปร์ เผยว่า
การเดินทางมาประเทศไทยช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ถือเป็นประเทศสุดท้ายของการ
เดินสายรับสมัครนักบินทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยก่อนหน้านั้น
ได้มีการจัดโรดโชว์มาแล้ว 6 ประเทศ ไทยเป็นประเทศที่ 7
ซึ่งเริ่มตั้งแต่ที่เมืองจาการ์ตาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.
เป็นแห่งแรกจากนั้นก็ไป สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ มะนิลา ฮ่องกง โฮจิมินห์
และกรุงเทพฯ เป็นแหล่งสุดท้าย
โดยสายการบินเอทิฮัดได้ทำพรีเซนเตชันแสดงความเป็นมาของสายการบินและเป้าหมาย
ที่ชัดเจนแก่ผู้เข้าร่วมงาน
โดยระบุว่าเป็นสายการบินของรัฐบาลมีฐานการบินอยู่ที่เมืองอาบูดาบี
และแหล่งผลิตน้ำมัน 90% ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อยู่ในเมืองอาบูดาบี
ตั้งเป้าหมายจะมีเครื่องบิน 180 ลำ
ไม่มีนโยบายเป็นพันธมิตรกับสายการบินใดกลุ่มใดไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย
สตาร์อัลไลแอนซ์ หรือวันเวิลด์
ที่ถือว่าเป็นเครือข่ายพันธมิตรทางการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะบริหารเอง
แต่จะโค้ดแชร์กับสายการบินใหญ่ ๆ เชื่อมโยงเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก
เศรษฐกิจแย่ไม่เคยลดเงินเดือน
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอข้อมูลทางด้านลูกเรือว่า 90%
ของพนักงานเป็นชาวต่างชาติ และมีนักบิน 78 สัญชาติ ลูกเรือ 141 สัญชาติ
บ่อยครั้งที่ลูกเรือในเที่ยวบินเดียวกัน 18-19 คน ต่างสัญชาติกันทั้งหมด
และยังเป็นสปอนเซอร์ในการแข่งขัน เอฟวัน ที่มีผู้ชมปีละ 600 ล้านคน
เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์
ทั้งเตรียมจะมีอาคารผู้โดยสารของเอทิฮัดโดยเฉพาะซึ่งในแผนการขยายสนามบิน
เทอร์มินัล 3 ของสนามบิน มีการสั่งเปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ใช้งบ 18
ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 540 ล้านบาท หลังจากใช้ไปแค่ 18 เดือน
เพราะเห็นว่ามีข้อเสีย ที่นั่งในชั้นไดมอนด์คลาส
สามารถปรับให้นั่งรับประทานอาหารค่ำได้ 4 คนเหมือนที่บ้านหรือภัตตาคาร
มีจอทัชสกรีนในการขอเครื่องดื่มติดต่อกับลูกเรือโดยตรง
ปัจจุบันเอทิฮัดมีนักบิน 1,100 คน มีสถิติการลาออก 23 คน
แม้เศรษฐกิจแย่แต่ก็ไม่เคยไปแตะเรื่องรายได้ของพนักงาน อาบูดาบี
เป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูงท็อป 30 แต่รายได้นักบินก็ถือว่าสูง
ถ้าเทียบกับค่าครองชีพ สามารถซื้อบ้านหรู 4 ห้องนอน มีสระว่ายน้ำ มีรถ
ปอร์ช ขับ ในราคาที่จับจ่ายซื้อหาได้
เมื่อเทียบกับเมืองอื่นที่ถ้ารายได้เท่ากัน แต่ไม่สามารถซื้อบ้าน
ซื้อรถแบบนี้ได้
ค่าหมอปีละ 20 ล้านเข้าร.พ.ทั่วโลก
ส่วนรายได้นักบิน 80% มาจากรายได้เงินเดือนขั้นพื้นฐาน อีก 20%
มาจากการไปบิน
เพื่อทำให้มีรายได้แน่นอนไม่ต้องมาติดกับการต้องบินมากเพื่อให้ได้รายได้มาก
มีนโยบายทำให้นักบินทุกฝูงบิน (FEET) มีรายได้เท่า ๆ กันทุกเส้นทางบิน
ต่างกันตรงที่ค่าอาหาร รายได้ ขั้นพื้นฐาน กัปตันเริ่มต้นที่ 9,600
ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 288,000 บาทต่อเดือน ค่าเช่าบ้าน (170,000 AED หรือราว
1.4 ล้านบาทต่อปี 1 เออีดีเท่ากับ 8 บาทเศษ)
ขณะที่บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน มีสระว่ายน้ำ ค่าเช่าปีละ 132,000 AED หรือราว
1,056,000 บาทต่อปี หรือจะเช่าถูกกว่าแต่บริษัทจ่ายเต็ม ค่าเล่าเรียนลูก
ได้ 4 คนอายุ 4-19 ปี โดยช่วงอายุ 4-11 ปี ได้คนละ 30,000 เออีดี 240,000…
บาท อายุ 11-19 ปีได้ 42,000 เออีดี หรือ 336,000 บาท
จ่ายตามจริงตามใบเสร็จ เรียนที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ และกำลังพิจารณาเพิ่ม
นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการด้านสุขภาพมีการประกันค่ารักษาพยาบาลวงเงินปีละ
2,5000,000 AED หรือราว 20 ล้านบาท ต่อ 1 ครอบครัว มีบัตร
เอโอเอสการ์ดให้ใช้ได้กับทุกคนในครอบครัว
ทั้งขณะปฏิบัติหน้าที่และไม่ทำงานโดยเจ็บป่วยที่ไหนในโลกนี้แสดงบัตรจะได้
รับการบริการเรื่องค่าใช้จ่าย นักบินเกษียณตอนอายุ 65 ปี
ในกรณีเจ็บป่วยไม่ได้ทำงาน 3
เดือนสายการบินอื่นจะไม่ได้รับเงินเดือนแต่เอทิฮัด จะจัดให้ทำงานออฟฟิศ
มีรายได้เดือนละประมาณ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 150,000 บาทต่อเดือน
และทำได้นานถึง 5 ปี เป็นต้น แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว
ที่มาเนื้อหาและภาพประกอบ :
toptenthailand.com